แอสตาแซนทีน เขามีฉายา ที่คนทั่วโลกต่างยอมรับว่า

“Nature’s Most Powerful Antioxidant”

แอสต้าแซนทีนเป็นที่สุดของสารต้านอนุมูลอิสระ

• ช่วยเร่งผิวใสอมชมพู ผิวอ่อนเยาว์
• ลดริ้วรอยแห่งวัยใน 4 สัปดาห์
• ลดการอักเสบสิว และปัญหาสิวเรื้อรัง
• ช่วยรงับความเจ็บปวดให้ไขข้อกระดูก
• รักษาและบรรเทาอาการผื่นคัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ลดอาการคันและแพ้
• บรรเทาอาการเส้นเอ็นยึด พังผืด
• ป้องกันรังสี UV จากภายนอก
  

แอสต้าแซนทีน คือที่สุดของสารต้านความแก่

เพราะ Astaxantine มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าสารอื่นในปริมาณที่เท่ากัน

• มากกว่า วิตามินซี 6000 เท่า
• มากกว่า Q10 800 เท่า
• มากกว่า วิตามินอีและชาเขียว 550 เท่า
• มากกว่ากรดอัลฟ่าไลโปอิก 75 เท่า
• มากกว่าเบต้าแคโรทีน 40 เท่า 
• มากกว่าสารสกัดเมล็ดองุ่น 17  เท่า

10 ประโยชน์จากสาหร่ายสีแดง แอสต้าแซนทีน

• ช่วยดูแลสุขภาพสายตา

แอสต้าแซนทีน ช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาที่เกี่ยวกับดวงตาเพราะสารสำคัญในสาหร่ายสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และหล่อเลี้ยงเซลล์ดวงตา ให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ

• เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม

แอสต้าแซนทีน สามารถช่วยปกป้องเซลล์ผิวได้อย่างล้ำลึก ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ไม่ให้เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ปกป้องผิวจากรังสี UV แสงแดด ไม่ให้ทำร้ายผิว พร้อมกับลดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้ากระ

• ช่วยระงับความเจ็บปวดไขข้อกระดูก

ในวงการแพทย์มีการใช้แอสต้าแซนทีน มาเป็นตัสช่วยเพื่อบรรเทาอาการปวด เพราะแอสต้าแซนทีนมีคุณสมบัติในการหยุดสารเคมี ซึ่งเป็นสาเหตุของการเจ็บปวด และยังสามารถลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ไขข้อกระดูก

แอสต้าแซนทีนสามารถเพิ่มกำลังให้แก่ร่างกาย ลดความเมื่อยล้า ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วโดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูก ข้ออักเสบในร่างกาย และมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม

• ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้มีความแข็งแรง

สาหร่ายสีแดงช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้มีความแข็งแรง เนื่องจากในสาหร่ายสีแดง อุดมด้วยวิตามินหลายชนิดจึงทำให้ร่างกายไม่เจ็บป่วยง่าย 

• ป้องกันท้องผูกและริดสีดวงทวาร

สาหร่ายสีแดงสามารถซึมเข้าสู่ลำไส้ได้ดี จึงช่วยป้องกันอาการท้องผูก และริดสีดวงทวาร ทำให้ขับถ่ายเป็นปกติ

• ย่อยสลายพังผืดที่ไม่ดีออกจากร่างกายทางปัสสาวะ

สาหร่ายสีแดงมีสรรพคุณในการช่วยย่อยสลายพังผืดที่ไม่ดีออกจากร่างกายทางปัสสาวะ และรักษาอาการเส้นเอ็นยึด เพราะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย

• รักษาและบรรเทาอาการผื่นคัน

โดยแอสต้าแซนทีนจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ลดอาการคันและแพ้ตามร่างกาย

• ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

เนื่องจากสารแอสต้าแซนทีนมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และมีเอนไซม์ธรรมชาติมากมาย ที่จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

• บำรุงสมองและระบบประสาทส่วนกลาง

แอสต้าแซนทีน ช่วยบำรุงสมองและประสาทส่วนกลาง เพราะแอสต้าแซนทีนจะไปช่วยทำให้สมองความจำดีขึ้น ลดความตึงเครียด จิตใจผ่อนคลาย มีสมาธิ

Zinc หรือสังกะสี

ทำงานคล้ายตำรวจจราจร คอยควบคุมให้กระบวนการต่างๆในร่างกายดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังคอยช่วยซ่อมแซมบำรุงระบบเอนไซม์และเซล์ต่างๆอีกด้วย ซิงค์มีความสำคัญต่อการสร้างโปรตีนและคอลลาเจน ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ

ทานซิงค์ดีอย่างไร

• ช่วยเสริมภูมิต้านทาน กำจัดจุดขาวบนเล็บ ช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก 
• รักษาสิว ควบคุมปัญหาการเกิดสิวจากการอุดตัน บรรเทาอาการอักเสบของสิว
• ช่วยฮอร์โมน และอวัยวะสืบพันธ์เพศชาย
• ป้องกันและรักษาอาการผมหลุดร่วงได้

Blackberry อุดมด้วยวิตามิน C แร่ธาตุจำเป็น และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยควบคุมอัตราการเต้นหัวใจ ผลัดเซลล์เม็ดเลือดแดง ควบคุมความดันโลหิต

• ช่วยต่อต้านมะเร็ง จับสารพิษก่อมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
• ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
• ช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนเพศ
• ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับตัวอ่อนระหว่างการตั้งครรภ์ ลดการแท้งบุตร
• ช่วยป้องกันโรคอัลไซมเมอร์ ความจำเสื่อม

• Vitamin A (วิตามินเอ)
  

วิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน โรซาน่า ใช้น้ำมันอะโวคาโด้เป็น เบสออยล์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการละลาย และเพิ่มการดูดซึมวิตามินเอ 

วิตามินเอ ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น ป้องกันอาการตาบอดกลางคืน เพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น ช่วยในการรักษาโรคตาหลายโรคด้วยกัน (ช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติไวต่อแสงในตา)

วิตามินเอช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ย่นระยะการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ช่วยให้เนื้อเยื่อชั้นนอกของอวัยวะต่างๆมีสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยลดจุดต่างดำที่ผิวหนัง

วิตามินเอ ส่งเสริมการเจริญเติบโต ความแข็งแรงของกระดูก และสุขภาพของผิวพรรณ ผม ฟัน และเหงือก

เมื่อขาดวิตามินเอ  ทำให้เป็นโรคตาแห้ง มีอาการตาบอดกลางคืน

• Vitamin E (วิตามินอี)
  

วิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน และถูกเก็บสะสมที่ตับ เนื้อเยื่อไขมัน หัวใจ กล้ามเนื้อ อัณฑะ มดลูก เลือด ต่อมหมวกไต และต่อมใต้สมอง

วิตามิน E ดีต่อร่างกายอย่างไร

ช่วยให้แลดูอ่อนกว่าวัย ชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์อันเกิดจากปฏิกริยาออกซิเดชั่น วิตามินอี ช่วยนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพความทนทาน ป้องกันปอดจากมลพิษทางอากาศ โดยทำงานร่วมกับวิตามินเอ ซึ่งในโรซาน่ามีวิตามินเอ 

อีกทั้งยังช่วยป้องมะเร็งหลายประเภท ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม ป้องกันและสลายลิ่มเลือด เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคให้เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T cell)  

บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ลดโอกาสเสี่ยง ต่อการเป็นต้อกระจก ลดอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและอัมพฤกษ์ อัมพาต ลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์

• Vitamin C (วิตามินซี)

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้าง และซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ เหงือก ผนังหลอกเลือด กระดูกและฟัน ทานโรซาน่า จึงช่วยผิวพรรณใส สุขภาพดีได้อีกด้วย การทานวิตามินซี ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น